ค่าไฟแพงขึ้นเพราะอะไร ทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง

ค่าไฟแพงขึ้นเพราะอะไร ทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง

สารบัญบทความ ค่าไฟแพงขึ้นเพราะอะไร ทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง

รปรับค่า Ft สูงขึ้น

ในช่วงเวลาที่ข้าวแพงและค่าแรงถูกต้องที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้ ปัญหาทางด้านค่าไฟที่พุ่งสูงเป็นเรื่องที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากประชาชนทั่วไป การเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้านั้นมีต้นทุนที่มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดขึ้น

เหตุผลหลักสำคัญที่ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นคือการเพิ่มความต้องการในพลังงานไฟฟ้า นั่นหมายความว่า มีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หรือในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีในหลายด้าน ทำให้มีการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เช่น รถยนต์ไฟฟ้า และเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น

ต้นทุนในการผลิตพลังงานไฟฟ้าก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดราคาของไฟฟ้า ปัจจัยหลาย ๆ อย่างมีผลต่อต้นทุนนี้ เช่น ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า การลงทุนในพื้นที่กำเนิดไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์

การรับมือและประหยัดค่าไฟฟ้าไม่เพียงแค่ช่วยลดภาระการจ่ายเงินในบิลไฟฟ้า เเต่ยังเป็นการรักษาสภาพแวดล้อม ลดการใช้พลังงานไม่จำเป็น ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งระยะยาวและระยะสั้น นอกจากนี้ยังสามารถสร้างสภาพเศรษฐกิจที่ยั่งยืนขึ้นได้ ในยุคที่ข้าวแพงและค่าแรงถูกนับถือว่าเป็นความท้าทาย การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้พลังงานไฟฟ้ามีบทบาทสำคัญที่จะช่วยในการลดความผันผวนของค่าไฟฟ้าและสร้างสภาพเศรษฐกิจที่ทนทานยิ่งขึ้นในระยะยาว

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้น

สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดราคาไฟฟ้า ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนตลอดเวลาตามเงื่อนไขทางตลาดและปัจจัยทางเศรษฐกิจ ต่อไปนี้คืออธิบายประโยค “ค่าไฟแพงขึ้นเพราะค่าเชื้อเพลิงสูงขึ้น” ซึ่งชี้ชัดถึงความเชื่อมโยงระหว่างราคาเชื้อเพลิงและค่าไฟฟ้า

ประโยคนี้สะท้อนถึงความจริงที่ว่าค่าไฟฟ้ามีความผันผวนตามต้นทุนในการผลิตพลังงานไฟฟ้า โดยที่ต้นทุนที่มีผลต่อค่าไฟฟ้ามากที่สุดคือต้นทุนในการผลิตหรือจัดหาเชื้อเพลิงที่ใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้า ในปัจจุบันนี้, ก๊าซธรรมชาติเป็นหนึ่งในเชื้อเพลิงหลักที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้ามากที่สุดในไทย

โดยทั่วไป, การขาดแคลนหรือการเปลี่ยนแปลงในการส่งออกหรือการผลิตของก๊าซธรรมชาติจะส่งผลต่อราคาของก๊าซธรรมชาติเอง และในทางตรงกันข้าม, ราคาก๊าซธรรมชาติส่วนใหญ่ก็มีผลต่อราคาไฟฟ้า

อย่างไรก็ตาม, ความสัมพันธ์นี้ไม่ได้มีลักษณะที่แน่นอนทุกครั้ง เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อราคาไฟฟ้าด้วย เช่น ปัจจัยในตลาดพลังงานระหว่างประเทศ, ความต้องการในตลาด, และปัจจัยทางการเมือง

เพราะฉะนั้น, การที่ค่าไฟฟ้าจะแพงขึ้นไม่ได้ตรงไปตรงมากับค่าเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตเท่านั้น แต่มีผลมาจากการแก้ไขต้นทุนและการผลิตพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดที่มีผลต่อตลาดไฟฟ้าในปัจจุบัน

ค่าไฟแพงขึ้น

สาเหตุของการปรับขึ้นของค่า Ft

การปรับขึ้นของค่า Ft หรือ ค่าไฟฟ้าผันแปร ไม่เพียงแต่ขึ้นอยู่กับราคาต้นทุนเชื้อเพลิงเท่านั้น มีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อการปรับค่า Ft ให้สูงขึ้น ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ชี้แจงสาเหตุหลักที่ทำให้มีการปรับค่า Ft ในช่วงปี 2565-2566 มี 4 เหตุผลหลักดังนี้

ปริมาณก๊าซธรรมชาติลดลง

สภาวะการขาดแคลนหรือลดปริมาณก๊าซธรรมชาติที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าส่งผลให้ต้องนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มากขึ้น ซึ่งมีต้นทุนสูงกว่าการใช้ก๊าซธรรมชาติภายในประเทศ ทำให้ต้องมีการปรับค่า Ft เพื่อประเมินค่าไฟฟ้าที่ต้องการจากก๊าซธรรมชาติ

การผลิตก๊าซจากเมียนมาร์ไม่สามารถประมวลผลได้ตามปกติ

ประเทศไทยมีความสามารถในการผลิตก๊าซธรรมชาติใช้เองได้เพียง 66% เท่านั้น, ส่วนที่เหลือต้องนำเข้า ซึ่งมีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ, และเมียนมาร์เป็นหนึ่งในที่มาที่ใหญ่ที่สุด การขาดแคลนนี้ส่งผลให้ต้องใช้ LNG แทน, ทำให้ต้นทุนการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

ชะลอการลงทุนของผู้ผลิต LNG

การชะลอการลงทุนของผู้ผลิต LNG จากวิกฤตโควิด-19 ทำให้มีความต้องการในตลาดน้อยลง และเมื่อตลาดกำลังฟื้นตัวความต้องการเพิ่มขึ้น, ผู้ผลิตต้องนำเข้า LNG เพิ่ม, ทำให้ค่า Ft มีการปรับขึ้นเพื่อประเมินต้นทุน

สงครามรัสเซีย-ยูเครน

สงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดโลกขึ้น, ทำให้เป็นที่ต้องการก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย และค่าเชื้อเพลิงก็ขึ้นตาม ส่งผลให้ค่า Ft มีการปรับขึ้น

การปรับขึ้นของค่า Ft มีผลต่อค่าไฟฟ้าที่บริโภค, และอาจส่งผลกระทบต่อความเศร้าที่ต้องจ่ายค่าไฟฟ้าของประชาชนในช่วงเวลาที่ค่า Ft สูงขึ้น

ค่า Ft

ปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลให้ค่าไฟแพงขึ้น

นอกจากสาเหตุที่ได้กล่าวถึงแล้วที่มีการปรับค่า Ft สูงขึ้น, ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่มีผลต่อค่าไฟที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน โดยเฉพาะหลังจากวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา:

การเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต

การทำงานที่บ้าน (work from home) มีการเพิ่มขึ้นมากขึ้น, ทำให้มีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์, แอร์, ไฟสว่าง, หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งทำให้พุ่งสูงขึ้นในทั้งหมด

สภาพอากาศร้อนของประเทศไทย

ประเทศไทยมีสภาพอากาศร้อนตลอดปี, ทำให้การใช้งานเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งจำเป็นมากขึ้น เพื่อความสะดวกและการรักษาอุณหภูมิที่สมบูรณ์สมบรูณ์ในระหว่างวันทำงาน นอกจากนี้, การลดอุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศในที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัยก็ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

การทำงานที่ออฟฟิศน้อยลง

การลดการทำงานที่ออฟฟิศและการเปลี่ยนมาทำงานที่บ้านทำให้คนมีการใช้พลังงานไฟฟ้ามากขึ้นในสถานที่ส่วนตัว, ทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น

การใช้งานเครื่องปรับอากาศที่เป็นคอมเพรสเซอร์

การปรับอุณหภูมิลงมากในห้องทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานมากขึ้นเพื่อให้บรรยากาศสะดวก ซึ่งส่งผลให้การใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

การเพิ่มการใช้พลังงานไฟฟ้าในชีวิตประจำวันทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นและเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ส่งผลให้ค่าไฟที่คนไทยต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้นในทุกๆ เดือน

สาเหตุที่ทำให้ค่าไฟแพงขึ้น

วิธีจัดการให้ค่าไฟลดลง

เพื่อลดค่าไฟในทุกๆ เดือน นอกจากที่เราไม่สามารถควบคุมการปรับค่า Ft ได้ แต่เราสามารถปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันได้ดังนี้

ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน

การถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งานเป็นหนึ่งในวิธีที่ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สามารถช่วยลดค่าไฟได้โดยไม่ต้องลงทุนหรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้พลังงานในบ้านมากมาย นับเป็นนัยสำคัญที่ทุกคนสามารถทำได้เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรและเสริมสร้างวัฒนธรรมการใช้พลังงานที่ยั่งยืนในชีวิตประจำวัน ดังนั้น ควรจะมีการเรียนรู้และสร้างสัญญาณให้กับตนเองและคนในครอบครัวเกี่ยวกับความสำคัญของการถอดปลั๊กไฟเมื่อไม่ใช้งานอย่างสม่ำเสมอ

ประสิทธิภาพของการถอดปลั๊กไฟต้องการการรับรู้และความรับผิดชอบจากผู้ใช้งาน หากเครื่องใช้ไฟฟ้ายังคงเชื่อมต่อกับแหล่งพลังงานแม้ว่าจะไม่ได้ใช้งาน ก็ยังมีการใช้พลังงานอยู่ ดังนั้นการถอดปลั๊กไฟจึงเป็นการตัดการเชื่อมต่อนี้ออกเพื่อป้องกันการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น และนี้เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยที่สามารถทำได้ทุกวัน ทั้งนี้ยังสามารถประหยัดค่าไฟและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่ 26-27 งศา

การเปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่ 26-27 องศาเซลเซียสเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการปรับใช้พลังงานในบ้านอย่างมีเหตุผล การทำตามข้อแนะนำนี้ไม่เพียงเพิ่มความสบายในการใช้งานเครื่องปรับอากาศเท่านั้น แต่ยังช่วยลดค่าไฟในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ

การทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานในอุณหภูมิที่สบาย 26-27 องศาเซลเซียส มีผลต่อการลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์ภายในเครื่อง ทำให้เครื่องปรับอากาศใช้พลังงานน้อยลง ซึ่งเป็นประโยชน์ไม่เพียงแค่ในด้านความประหยัดพลังงาน แต่ยังส่งผลต่อการลดค่าไฟที่ต้องจ่ายทุกเดือน

หากปรับลดอุณหภูมิให้ต่ำเกินไป เช่น เย็นจัด จะทำให้เครื่องปรับอากาศและคอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น และมีการใช้พลังงานมากขึ้น ทำให้ค่าไฟที่ต้องจ่ายเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากการใช้พลังงานมากขึ้นจะทำให้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้น

การควบคุมอุณหภูมิในการใช้งานเครื่องปรับอากาศให้เป็นไปตามข้อแนะนำนี้ ไม่เพียงเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน แต่ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าไฟที่ต้องจ่ายทุกเดือนอย่างมีเหตุผล

ใช้หลอดไฟ LED ดีกว่าหลอดไฟแบบไส้

การใช้หลอดไฟ LED เมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบไส้ เป็นการลงทุนที่มีคุณค่าและมีประโยชน์มากขึ้นในระยะยาว หลอด LED นั้นถือเป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูง และมีหลายเหตุผลที่ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับหลอดไฟแบบไส้

หลอด LED มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่าหลอดไฟแบบไส้ ซึ่งหมายความว่าจะให้แสงสว่างที่เหมาะสมกว่าโดยใช้พลังงานน้อยกว่า นอกจากนี้ หลอด LED ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานมาก ซึ่งทำให้ไม่ต้องทำการเปลี่ยนหลอดบ่อย ลดความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการซื้อหลอดไฟใหม่

การลงทุนในหลอด LED ที่มีราคาสูงกว่าหลอดไฟชนิดอื่นๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า โดยทั่วไปแล้วราคาที่สูงกว่านี้นั้นจะถูกชดเชยโดยประโยชน์และประสิทธิภาพที่มีให้ คุณภาพของแสงที่ได้จากหลอด LED มีความสว่างและสีที่สมจริง สามารถให้แสงที่เหมาะสมสำหรับกิจกรรมต่าง ๆ ในบ้านหรือที่ทำงาน

หลอด LED ยังไม่มีสารประกอบที่ทำให้เกิดแสงที่ไม่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ไม่มีประจุไฟฟ้าที่ทำให้เกิดปัญหาปล่อยก๊าซเรือนกระจกหรือสารพิษอื่น ๆ ทำให้เป็นทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นในทุกการใช้งาน

เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5

โครงการประหยัดไฟเบอร์ 5 ของ กฟผ. เป็นหนึ่งในมาตรการที่สร้างขึ้นเพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดทรัพยากรธรรมชาติ โดยเฉพาะในการใช้ไฟฟ้า หมายถึงการสนับสนุนและส่งเสริมการใช้งานอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผ่านการทดสอบและได้รับฉลากเบอร์ 5 จากระบบประกันคุณภาพแห่งชาติ

การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5 มีความสำคัญที่สำคัญต่อการลดการใช้พลังงานและค่าไฟฟ้า โดยทั้งผู้บริโภคและธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ที่ได้รับการประกันคุณภาพเบอร์ 5 นั้นมีประสิทธิภาพในการประหยัดไฟฟ้าอย่างแน่นอน

การให้ฉลากเบอร์ 5 ถือเป็นการรับรองว่าอุปกรณ์นั้นได้รับการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพเพื่อให้มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน การใช้งานอุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเบอร์ 5 จึงเป็นการเลือกที่ทำให้ผู้ใช้ไฟฟ้าสามารถมีส่วนร่วมในการลดการใช้พลังงานและรับผลประโยชน์จากการประหยัดค่าไฟฟ้าอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมทั้งอุตสาหกรรมและผู้ผลิตให้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพทางพลังงานมากขึ้นในอนาคต

ลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์

การลงทุนในการติดตั้งโซล่าเซลล์เป็นทางเลือกที่น่าสนใจที่สามารถสร้างประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน โซล่าเซลล์เป็นแหล่งพลังงานที่มีความสะอาดและไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมีการผลิตไฟฟ้าโดยใช้แสงอาทิตย์ที่เป็นทรัพยากรที่ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำมันหรือแหล่งพลังงานที่สูญเสีย

การลงทุนในโซล่าเซลล์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้า โดยเฉพาะในระยะยาว เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าจากระบบโซล่าเซลล์มีต้นทุนที่ต่ำกว่าการผลิตจากระบบพลังงานที่ใช้เชื้อเพลิงธรรมดา นอกจากนี้ยังมีการลดการใช้งานไฟฟ้าจากการไปซื้อจากระบบไฟฟ้าทั่วไป ดูสินค้าทั้งหมด

ระบบโซล่าเซลล์แบบ On grid เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ทั้งในบ้านหรืออาคารขนาดเล็กและใหญ่ นอกจากระบบที่เชื่อมต่อกับกริดนี้ยังมีระบบ Off grid และ Hybrid ที่เหมาะสำหรับบริโภคที่ต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งกลางวันและกลางคืนหรือในพื้นที่ที่ไม่สามารถเชื่อมต่อกับกริดไฟฟ้าได้

การลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังเป็นการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืน และสร้างผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าพิจารณาสำหรับผู้ที่ต้องการลดต้นทุนการใช้งานและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมในทันที

ปรับพฤติกรรมการใช้งาน

การปรับพฤติกรรมการใช้งานไฟฟ้า เช่น การลดการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าในเวลาที่ไม่จำเป็น, การปิดไฟที่ไม่ได้ใช้, และการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดค่าไฟอย่างมีประสิทธิภาพ

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้ไฟฟ้าและการนำเอาเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานมาใช้ในชีวิตประจำวันนี้ จะช่วยให้เราประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้รายจ่ายที่เกี่ยวกับพลังงานน้อยลงและเข้ากับภาวะเศรษฐกิจของทุกคนในยุคที่ค่าใช้จ่ายมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น

วิธีจัดการให้ค่าไฟลดลง

สรุปค่าไฟแพงขึ้นเพราะอะไร ทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง

ค่าไฟแพงขึ้นกับการจัดการให้ค่าไฟลดลงสามารถทำได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากไม่สามารถควบคุมค่า Ft ได้ หลายมาตรการง่าย ๆ สามารถนำมาใช้เพื่อประหยัดค่าไฟได้อย่างแน่นอน ปรึกษาฟรี LINE ID : @solarD

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับค่าไฟแพงขึ้นเพราะอะไร ทำอย่างไรเพื่อให้ค่าไฟลดลง

ทำไมค่าไฟขึ้นสูง?

ค่าไฟที่ขึ้นสูงส่วนใหญ่เกิดจากการปรับขึ้นของค่า Ft หรือค่าบริการของการไฟฟ้า ส่วนปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าไฟแพง การใช้ไฟมากขึ้น, ปัจจัยภายนอกเช่นราคาน้ำมัน, และปัจจัยภายในที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการบริษัทไฟฟ้า

วิธีการลดค่าไฟได้อย่างไร?

การลดค่าไฟสามารถทำได้โดยการปรับพฤติกรรมการใช้ไฟในชีวิตประจำวัน การถอดปลั๊กไฟทุกครั้ง, ปรับอุปกรณ์ปรับอากาศให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสม, การใช้หลอดไฟ LED, การเลือกใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าเบอร์ 5, และการลงทุนติดตั้งโซล่าเซลล์

การปรับขึ้นของค่า Ft มีผลอย่างไร?

การปรับขึ้นของค่า Ft ส่วนใหญ่มีความเกี่ยวข้องกับความต้องการพลังงานและการจัดหาพลังงานจากแหล่งที่มีค่าใช้จ่ายสูง การใช้พลังงานที่ไม่หลายหลายและทำให้ต้องการการสร้างพลังงานเพิ่มเติมจะส่งผลให้ค่า Ft ขึ้น

บทความที่น่าสนใจ