โซล่าเซลล์ คืออะไร?

โซล่าเซลล์ คือ

สารบัญบทความ โซล่าเซลล์ คืออะไร?

ปั๊มน้ำโซล่าเซล ปั๊มบาดาลโซล่าเซล อินเวอร์เตอร์ปั๊ม

เชื่อว่าความรู้เกี่ยวกับการทำงานของโซล่าเซลล์นั้นเป็นประโยชน์ที่สำคัญในยุคที่พลังงานสะอาดและยั่งยืนกำลังเป็นที่สนใจของมนุษยชาติทั่วๆ ไป แม้ว่าหลายคนอาจมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับโซล่าเซลล์แล้ว แต่การเข้าใจหลักการทำงานของมันจะช่วยให้เรามองเห็นภาพที่ลึกซึ้งขึ้นได้มากขึ้น

โซล่าเซลล์คือเทคโนโลยีที่มีความสามารถในการแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือความร้อน การทำงานของโซล่าเซลล์นั้นมีหลายขั้นตอนที่สำคัญ โดยจุดเริ่มต้นคือ “เซลล์แสงอาทิตย์” หรือที่เรียกกันอีกชื่อหนึ่งคือ “เซลล์โซล่าเซลล์” ที่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของโซล่าเซลล์

เซลล์แสงอาทิตย์มีความสามารถในการดักจับแสงอาทิตย์และแปลงมันเป็นกระแสไฟฟ้า สารที่ทำให้เกิดกระแสนี้คือไซลิโคน (silicon) ซึ่งเป็นสารที่พบได้มากในธรรมชาติ โดยไซลิโคนนี้ถูกวางในโครงสร้างของเซลล์แสงอาทิตย์อย่างเป็นระเบียบ

เมื่อเซลล์แสงอาทิตย์ได้รับแสงอาทิตย์ ไซลิโคนภายในเซลล์จะเปิดเผยอิเล็กตรอน ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ช่วยสร้างกระแสไฟฟ้า อิเล็กตรอนนี้จะถูกนำไปผ่านทางไฟฟ้าที่อยู่ภายในเซลล์และสร้างกระแสไฟฟ้าที่สามารถนำมาใช้งานได้

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของโซล่าเซลล์ เช่น การใช้วัสดุพิเศษที่เพิ่มความไวสูงในการดักจับแสง หรือการออกแบบระบบเก็บเกี่ยวพลังงานที่ใช้ในช่วงเวลาที่แสงอาทิตย์มีอยู่น้อย

ทำให้โซล่าเซลล์เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการผลิตพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน การทำความเข้าใจถึงกระบวนการทำงานของโซล่าเซลล์นี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เราเข้าใจมิติที่ลึกซึ้งของเทคโนโลยีที่สำคัญนี้มากยิ่งขึ้น

1. ปั๊มน้ำโซล่าเซล ปั๊มบาดาลโซล่าเซล อินเวอร์เตอร์ปั๊ม

การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบของโซล่าเซลล์เป็นหนึ่งในวิธีการที่มีประสิทธิภาพสูงในการผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะการใช้ปั๊มน้ำโซล่าเซลและปั๊มบาดาลโซล่าเซล รวมถึงอินเวอร์เตอร์ปั๊มที่ติดตั้งในระบบ ทำให้ได้ประโยชน์ทั้งในด้านการประหยัดพลังงานและลดการใช้งานพลังงานที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

โซล่าเซลล์ คืออุปกรณ์ที่มีความสามารถในการแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า ด้วยกระบวนการทางเคมีที่เรียกว่าโฟโตโวลตาติก (Photovoltaic หรือ PV) โดยใช้วัสดุหลักคือ ซิลิกอน (Silicon) ซึ่งเป็นสารทางไฟฟ้าที่มีความสามารถในการทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเมื่อได้รับแสงอาทิตย์

การทำปฏิกิริยาดังกล่าวทำให้เกิดแรงดันและกระแสไฟฟ้า ที่มีการเปลี่ยนแปลงตามปริมาณและความเข้มของแสงแดดที่กระทบตรงกับแผงโซล่าเซลล์ จากนั้น เราสามารถนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้งานได้โดยตรงหรือเก็บไว้ในแบตเตอรี่

การใช้งานในอุตสาหกรรมและทั่วไป โซล่าเซลล์ได้รับความนิยมในการใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม และสามารถใช้ทั่วไปในการให้พลังงานไฟฟ้าในที่ต่างๆ โดยการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ที่ราคาเข้าถึงได้ง่าย เช่น ติดตั้งโซล่าเซลล์บนหลังคาที่บ้าน หรือในพื้นที่เปิดกว้าง ทำให้เกิดไฟฟ้าในรูปแบบของไฟฟ้ากระแสตรง (Direct Current หรือ DC) ที่สามารถนำมาใช้ในการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การใช้ปั๊มน้ำโซล่าเซล ปั๊มบาดาลโซล่าเซล และอินเวอร์เตอร์ปั๊ม เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมในการใช้ประโยชน์จากพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อผลิตไฟฟ้าในที่ทำงานหรือที่อยู่อาศัย ซึ่งไม่เพียงที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการใช้พลังงาน แต่ยังช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นการนำเทคโนโลยีที่ยังคงพัฒนาไปในทิศทางที่เป็นประโยชน์ต่อทุกคนและโลกของเราอย่างยั่งยืน

แผงโซล่าเซลล์ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ราคาถูก

2. อุปกรณ์ในระบบโซล่าเซลล์

ระบบโซล่าเซลล์ประกอบด้วยหลายอุปกรณ์ที่ทำงานร่วมกันเพื่อแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า และนำไฟฟ้าที่ได้มาใช้งานหรือเก็บไว้ในระบบเก็บพลังงานไฟฟ้าเพื่อให้ใช้ในภายหลัง นี่คืออุปกรณ์หลักในระบบโซล่าเซลล์

2.1 แผงโซล่าเซลล์ (Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์มักจะถูกทำจากวัสดุซิลิคอน (Silicon) ที่มีความสามารถในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าได้สูง โดยมีสองประเภทหลักของเซลล์แสงอาทิตย์คือเซลล์แสงอาทิตย์ที่ทำจากซิลิคอนชนิดมอโนแคริสตัลลายน์ (Monocrystalline Silicon) และชนิดพอลีคริสตัลลายน์ (Polycrystalline Silicon) โดยทั้งสองประเภทนี้มีความแตกต่างกันในการผลิตและลักษณะทางกายภาพของเซลล์

  1. เซลล์มอโนแคริสตัลลายน์ (Monocrystalline Silicon):
    • มีโครงสร้างที่เป็นเนื้อเดียวตามทิศทางเดียวกัน
    • มีประสิทธิภาพสูงในการแปลงพลังงาน
    • มีลักษณะทางกายภาพเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีมุมโค้งที่ถูกต้องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  2. เซลล์พอลีคริสตัลลายน์ (Polycrystalline Silicon):
    • มีโครงสร้างที่เป็นบล็อกหลายๆ ชิ้นรวมกัน
    • มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าเซลล์มอโนแคริสตัลลายน์
    • มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานที่ต่ำกว่าเซลล์มอโนแคริสตัลลายน์

การเลือกใช้เซลล์แบบไหนขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้และงบประมาณที่มีในการลงทุน การใช้แผงโซล่าเซลล์เป็นแหล่งพลังงานสามารถช่วยลดการใช้พลังงานจากระบบจ่ายไฟฟ้าทั่วไป และเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นมลพิษที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมได้ด้วย ดูสินค้าทั้งหมด

2.3 คอนโทรลเลอร์ (Charge Controller)

คอนโทรลเลอร์ (Charge Controller) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เฟ้นหาและควบคุมกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่และออกจากแบตเตอรี่ที่ใช้ในระบบโซลาร์ (solar) หรือระบบเก็บพลังงานอื่น ๆ โดยเฉพาะในทางปฏิบัติมักใช้คอนโทรลเลอร์ในระบบโซลาร์ ด้วยเหตุนี้คอนโทรลเลอร์มีหน้าที่หลัก 2 ประการคือการควบคุมกระแสไฟฟ้าและการควบคุมแรงดัน (voltage) ที่ไหลผ่านระบบโซลาร์ ดังนี้:

  1. ควบคุมกระแสไฟฟ้า (Current Control):
    • คอนโทรลเลอร์มีหน้าที่ควบคุมกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่และออกจากแบตเตอรี่ และบุคคลอื่น ๆ ในระบบ
    • ป้องกันการชาร์จแบตเตอรี่มากเกินไปหรือไหลไปที่อุปกรณ์ที่ไม่ได้รับการอนุญาต เช่น แบตเตอรี่เต็มแล้วหรืออุปกรณ์ในระบบที่ไม่รองรับกระแสที่สูง
  2. ควบคุมแรงดัน (Voltage Control):
    • คอนโทรลเลอร์ช่วยปรับแรงดันไฟฟ้าที่ไหลผ่านระบบ เพื่อให้แม่แบตเตอรี่ไม่เกินหรือต่ำกว่าระดับที่กำหนด
    • ป้องกันการปรับแรงดันที่อุปกรณ์หรือระบบไม่รองรับ

การใช้คอนโทรลเลอร์ช่วยลดความเสียหายและประสิทธิภาพของระบบโซลาร์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ โดยป้องกันการชาร์จหรือวัสดุจากการใช้งานที่ไม่เหมาะสมหรือมีความเสี่ยงที่จะทำให้แบตเตอรี่เสียหายลดลง ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญในระบบพลังงานที่ไม่ได้ต่อเนื่องเช่นระบบโซลาร์ที่ใช้ในที่ที่มีการไหลของไฟฟ้าที่ไม่นิ่งตลอดเวลา หรือในสถานที่ที่มีแสงอาทิตย์มีจำกัด เช่นในท้องถิ่นที่มีฤดูฝนมาก การใช้คอนโทรลเลอร์เป็นส่วนหนึ่งของระบบโซลาร์เป็นทางเลือกที่สมเหตุสมผลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของระบบได้มากขึ้น

2.4 แบตเตอรี่ (Battery)

แบตเตอรี่ (Battery) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ในช่วงเวลาที่มีแสงอาทิตย์และให้พลังงานไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในการทำให้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไปได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนี้:

  1. เก็บพลังงาน:
    • แบตเตอรี่เป็นตัวเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ในช่วงเวลาที่มีแสงอาทิตย์
    • เมื่อแผงโซล่าเซลล์สร้างไฟฟ้ามากเกินความต้องการปัจจุบัน แบตเตอรี่จะเก็บเกินไปเพื่อให้นำไปใช้ในภายหลังเมื่อไม่มีแสงอาทิตย์
  2. การให้พลังงานในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์:
    • ในช่วงเวลาที่ไม่มีแสงอาทิตย์ เช่นตอนกลางคืน หรือในสภาวะที่มีเมฆมาก แบตเตอรี่จะทำหน้าที่ให้พลังงานไฟฟ้าในการใช้งานต่อไป
  3. การปรับสมดุลกระแสไฟฟ้า:
    • แบตเตอรี่ช่วยปรับสมดุลกระแสไฟฟ้าในระบบ โดยเป็นตัวช่วยในการปรับกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่และออกจากระบบ เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและป้องกันความเสียหาย
  4. การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์:
    • การใช้แบตเตอรี่ช่วยลดแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในระบบ เช่น การให้ไฟฟ้าที่มีแรงกระแทกเยอะๆ จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบ การใช้แบตเตอรี่เป็นตัวปรับสมดุลและช่วยลดแรงกระแทกนี้

การเลือกใช้แบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับระบบโซลาร์และความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ เพื่อให้ระบบทำงานอย่างเสถียรและมีประสิทธิภาพในการจัดเก็บและให้พลังงานไฟฟ้าในทุกสถานการณ์ทางอากาศ และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ

2.5 อินเวอร์เตอร์ (Inverter)


อินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โดยหน้าที่หลักของอินเวอร์เตอร์คือแปลงกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะดีซี (Direct Current – DC) จากแผงโซล่าเซลล์และแบตเตอรี่เป็นกระแสไฟฟ้าที่มีลักษณะอัลทินาทิฟ (Alternating Current – AC) ที่เครื่องใช้งานสามารถใช้งานได้ นี่คือบางคุณสมบัติและบทบาทสำคัญของอินเวอร์เตอร์:

  1. แปลงกระแสไฟฟ้า:
    • อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าที่ไหลมาจากแผงโซล่าเซลล์และแบตเตอรี่ (DC) เป็นกระแสไฟฟ้าที่เครื่องใช้งานสามารถใช้งานได้ (AC)
  2. ปรับแต่งแรงดัน (Voltage Regulation):
    • อินเวอร์เตอร์ช่วยปรับแต่งแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับเครื่องใช้งานที่ต่ออยู่
    • ป้องกันการเกิดความเสียหายในอุปกรณ์ที่ต่อกับระบบ
  3. ส่งไฟฟ้ากลับเข้าสู่กระบวนการชาร์จแบตเตอรี่ (Grid-Tied Inverters):
    • ในกรณีที่ระบบโซลาร์เป็นระบบที่เชื่อมต่อกับกระบวนการไฟฟ้าเครือข่าย อินเวอร์เตอร์สามารถส่งไฟฟ้าที่เกินกำลังผลิตไปยังเครือข่ายไฟฟ้าขนาดใหญ่
  4. การตรวจสอบและควบคุม:
    • บางรุ่นของอินเวอร์เตอร์มีฟังก์ชันการตรวจสอบและควบคุมการทำงานของระบบ ทำให้สามารถดูแลและควบคุมการใช้พลังงานได้เป็นอย่างดี
  5. ป้องกันการสั่นสะเทือนและการทำลาย:
    • อินเวอร์เตอร์มักมีการออกแบบให้ทนทานต่อสภาวะที่ไม่แน่นอน เช่น การสั่นสะเทือน และการทำลายจากสภาวะอากาศ
  6. การปรับสมดุลกระแสไฟฟ้า (Inverter with MPPT – Maximum Power Point Tracking):
    • รุ่นบางรายของอินเวอร์เตอร์มีฟังก์ชัน MPPT ที่ช่วยปรับสมดุลกระแสไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซล่าเซลล์ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุด

การเลือกใช้อินเวอร์เตอร์ที่เหมาะสมกับระบบโซลาร์และความต้องการของผู้ใช้เป็นสำคัญ เพื่อให้ระบบทำงานได้เสถียรและมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานไฟฟ้าไปใช้งานในเครื่องใช้งานต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพสูง

2.6 สายไฟและอุปกรณ์เสริม

ในระบบโซล่าเซลล์มีสายไฟและอุปกรณ์เสริมที่เป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อและให้กำลังไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้งานต่าง ๆ นอกจากอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ที่กล่าวถึงมาก่อนหน้านี้ นี่คือบางสายไฟและอุปกรณ์เสริมที่มักใช้ในระบบโซล่าเซลล์:

  1. สายไฟ (Solar Cables):
    • สายไฟที่ใช้ในระบบโซล่าเซลล์ต้องเป็นสายที่ทนทานต่อสภาวะอากาศและรังสีแสงอาทิตย์
    • สายไฟที่ใช้ในระบบโซล่าเซลล์มักจะมีสีแดงหรือดำและมีขนาดทางด้านต้นแบบกำหนดตามมาตรฐาน
  2. คอนเน็กเตอร์ (Connectors):
    • คอนเน็กเตอร์ใช้ในการเชื่อมต่อสายไฟจากระบบโซล่าเซลล์ไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น อินเวอร์เตอร์ แบตเตอรี่ หรือชาร์จเบตเตอร์
    • มีคอนเน็กเตอร์พิเศษที่ออกแบบมาเพื่อให้การเชื่อมต่อระบบโซล่าเซลล์มีประสิทธิภาพสูง
  3. สวิตช์ (Switch):
    • สวิตช์ในระบบโซล่าเซลล์ใช้ในการเปิดหรือปิดการไหลของกระแสไฟฟ้าในระบบ
    • สามารถใช้สวิตช์เพื่อควบคุมการเชื่อมต่อหรือตัดการเชื่อมต่อของแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์อื่น ๆ ในระบบ
  4. ชาร์จเบตเตอร์ (Battery Charger):
    • ชาร์จเบตเตอร์ใช้ในการชาร์จแบตเตอรี่จากระบบโซล่าเซลล์
    • เมื่อแบตเตอรี่ไม่ได้ใช้งานหรือมีพลังงานไฟฟ้าเกินมาก ชาร์จเบตเตอร์สามารถทำหน้าที่ชาร์จแบตเตอรี่เพื่อรักษาพลังงานในแบตเตอรี่
  5. ไฟ LED (LED Lights):
    • ไฟ LED เป็นตัวแทนไฟส่วนใหญ่ที่ใช้ในระบบโซล่าเซลล์
    • ไฟ LED ทำหน้าที่ให้แสงสว่างในพื้นที่ที่ต้องการไฟส่วนใหญ่ที่เกิดจากระบบโซล่าเซลล์
  6. ควบคุมชาร์จ (Charge Controller):
    • นอกจากคอนโทรลเลอร์ที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้ ควบคุมชาร์จใช้ในกรณีที่ต้องการควบคุมกระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้าสู่แบตเตอรี่ในกระบวนการชาร์จ

การเลือกใช้สายไฟและอุปกรณ์เสริมในระบบโซล่าเซลล์นั้นสำคัญเพื่อให้ระบบทำงานได้ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพในการให้พลังงานไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้งานต่าง ๆ

ประเภทของแผงโซล่าเซลล์

3. แผงโซล่าเซลล์ มีกี่ชนิด ต่างกันอย่างไร

มีหลายประเภทและรูปแบบของแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้า ต่อไปนี้คือหลาย ๆ ชนิดที่พบบ่อย

3.1 แผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน (Monocrystalline Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน (Monocrystalline Solar Panels) เป็นหนึ่งในประเภทของแผงโซล่าเซลล์ที่นิยมมากในตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนี้:

  1. วัสดุ:
    • ทำจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีโครสตาลไลน์เดียว
    • ใช้วัสดุซิลิคอนที่เลือกจากแกนเดียวเท่านั้น ซึ่งทำให้มีโครสตัลไลน์หนึ่งเดียวตลอดแผ่น
  2. ประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพสูง
    • มีความไวในการแปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าได้ดีที่สุดในหมวดหมู่ของแผงโซล่าเซลล์
  3. ลักษณะภายนอก:
    • มักมีลักษณะที่เรียบหรูและดูสวยงาม
    • มีการตัดเจาะขอบที่ทำให้มีมุมมนต์
  4. พื้นที่ในการติดตั้ง:
    • มีประสิทธิภาพพื้นที่ในการติดตั้งสูง หมายถึงสามารถให้กำลังไฟฟ้ามากๆ จากพื้นที่เล็กๆ
  5. ประโยชน์:
    • มีประสิทธิภาพสูงในการทำงานในสภาวะแสงอาทิตย์น้อย
    • มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
  6. ราคา:
    • มักมีราคาสูงกว่าแผงโซล่าเซลล์ที่ทำจากวัสดุอื่น
  7. การใช้งาน:
    • ใช้งานได้ดีในทุกสภาวะการใช้งาน ทั้งในการติดตั้งในบ้าน โรงงาน หรือโครงการพลังงานขนาดใหญ่

แผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีนมักถูกนำมาใช้ในการกำหนดระบบโซลาร์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและมีการใช้งานในพื้นที่จำกัดที่ต้องการการผลิตไฟฟ้ามากจากระบบแผงโซล่าเซลล์ที่มีขนาดเล็ก ทำให้เป็นทางเลือกที่นิยมในโครงการที่มีความต้องการประสิทธิภาพสูงและมีพื้นที่จำกัดในการติดตั้ง ดูสินค้าทั้งหมด

3.2 แผงโซล่าเซลล์โพลีคริสตาลีน (Polycrystalline Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์โพลีคริสตาลีน (Polycrystalline Solar Panels) เป็นประเภทหนึ่งของแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้ในการแปลงพลังงานแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า ดังนี้:

  1. วัสดุ:
    • ทำจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่มีโครสตาลไลน์หลายบล็อก
    • วัสดุที่ใช้มีลักษณะใกล้เคียงกับแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน แต่มีโครสตาลไลน์หลายบล็อกอยู่ในตัวเดียว
  2. ประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพที่ดีในการแปลงแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า
    • มีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน
  3. ลักษณะภายนอก:
    • มีลักษณะที่เป็นผลึกเมื่อเทียบกับแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน
    • มักมีลักษณะการตัดเจาะขอบที่มุมมนต์น้อยกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน
  4. พื้นที่ในการติดตั้ง:
    • มีประสิทธิภาพพื้นที่ในการติดตั้งที่มากกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน หมายถึงต้องใช้พื้นที่มากขึ้นเพื่อให้ได้กำลังไฟฟ้าเท่ากัน
  5. ราคา:
    • มีราคาที่ถูกกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีน
    • เป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับงบประมาณที่จำกัด
  6. การใช้งาน:
    • ใช้งานได้ดีในสภาวะแสงอาทิตย์ทั่วไป
    • เหมาะสำหรับการติดตั้งในทั้งที่มีขนาดใหญ่และขนาดเล็ก

แผงโซล่าเซลล์โพลีคริสตาลีนมักถูกนำมาใช้ในโครงการที่ต้องการความประหยัดต้นทุนและมีพื้นที่ในการติดตั้งมากๆ เพื่อให้ได้กำลังไฟฟ้ามากขึ้น การเลือกใช้ประเภทนี้มักขึ้นอยู่กับความต้องการของโครงการและงบประมาณที่กำหนด

3.3 แผงโซล่าเซลล์ทินซีย์ (Thin-Film Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์ทินซีย์ (Thin-Film Solar Panels) เป็นประเภทของแผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตในรูปแบบที่บางเฉียบ โดยใช้วัสดุที่บางเท่านั้น ซึ่งมีความยืดหยุ่นและเบนได้ ลักษณะนี้ทำให้แผงโซล่าเซลล์ทินซีย์สามารถนำมาใช้ในที่ที่ไฟฟ้าแสงอาทิตย์ไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีลักษณะและคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้

  1. วัสดุ:
    • ใช้วัสดุที่บางเท่านั้น เช่น ซิลิคอน, เซเลเนียม, และไคแคเซียม
    • มีความหลากหลายในการใช้วัสดุ
  2. ประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีนและโพลีคริสตาลีน
    • ประสิทธิภาพส่วนใหญ่มีการลดลงเมื่อเทียบกับแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้วัสดุที่หนากว่า
  3. ลักษณะภายนอก:
    • มีลักษณะที่บางเฉียบและเบนได้
    • สามารถนำมาใช้ในพื้นที่ที่มีรูปทรงที่ซับซ้อน
  4. พื้นที่ในการติดตั้ง:
    • มีประสิทธิภาพพื้นที่ในการติดตั้งที่สูง
    • ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
  5. ความยืดหยุ่น:
    • มีความยืดหยุ่นมาก ทำให้สามารถใช้ในการทำงานบนพื้นผิวที่ไม่แน่นอนหรือมีรูปทรงที่ไม่สมมาตร
  6. ราคา:
    • มีราคาที่ถูกกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีนและโพลีคริสตาลีน
  7. การใช้งาน:
    • มักนำมาใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
    • ใช้ในแอพพลิเคชั่นที่มีความต้องการพื้นที่สูงและมีการเข้าถึงแสงอาทิตย์น้อย
  8. ประสิทธิภาพในเงื่อนไขแสงน้อย:
    • มีประสิทธิภาพที่ดีในเงื่อนไขแสงน้อย ทำให้เหมาะสำหรับที่ติดตั้งในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศและแสงอาทิตย์ไม่คงที่

การเลือกใช้แผงโซล่าเซลล์ทินซีย์มักมีความเหมาะสมในการใช้งานที่มีความต้องการในเรื่องของความยืดหยุ่นและพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าความประสิทธิภาพที่สูงในหนึ่งตารางเมตรของแผงโซล่าเซลล์

3.4 แผงโซล่าเซลล์เอมอนิโค (Amorphous Silicon Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์เอมอนิโค (Amorphous Silicon Solar Panels) เป็นประเภทของแผงโซล่าเซลล์ที่ผลิตจากซิลิคอนเชิงเหนือ (a-Si) หรือซิลิคอนที่ไม่มีลำเลียงที่เรียงตัวตามลำแกนเป็นระเบียบ (amorphous) ซึ่งมีลักษณะที่บางและเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีลักษณะและคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้:

  1. วัสดุ:
    • ผลิตจากซิลิคอนเชิงเหนือ (a-Si) หรือซิลิคอนที่ไม่มีลำเลียงที่เรียงตัวตามลำแกน
    • วัสดุที่บางและไม่เรียงตัวเป็นระเบียบ
  2. ประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีนและโพลีคริสตาลีน
    • ประสิทธิภาพลดลงเร็วเมื่อเทียบกับแผงโซล่าเซลล์ที่ใช้วัสดุที่มีลำเลียง
  3. ลักษณะภายนอก:
    • มีลักษณะที่บางและเฉียบพลัน
    • สามารถนำมาใช้ในพื้นที่ที่มีรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงได้
  4. พื้นที่ในการติดตั้ง:
    • มีประสิทธิภาพพื้นที่ในการติดตั้งที่สูง
    • ทำให้เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีพื้นที่จำกัด
  5. ความยืดหยุ่น:
    • มีความยืดหยุ่นมาก ทำให้สามารถใช้ในการทำงานบนพื้นผิวที่ไม่แน่นอนหรือมีรูปทรงที่ไม่สมมาตร
  6. ราคา:
    • มีราคาที่ถูกกว่าแผงโซล่าเซลล์โมโนแครสตาลีนและโพลีคริสตาลีน
  7. การใช้งาน:
    • มักนำมาใช้ในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง
    • ใช้ในแอพพลิเคชั่นที่มีความต้องการพื้นที่สูงและมีการเข้าถึงแสงอาทิตย์น้อย
  8. ประสิทธิภาพในเงื่อนไขแสงน้อย:
    • มีประสิทธิภาพที่ดีในเงื่อนไขแสงน้อย ทำให้เหมาะสำหรับที่ติดตั้งในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศและแสงอาทิตย์ไม่คงที่

การเลือกใช้แผงโซล่าเซลล์เอมอนิโคมักมีความเหมาะสมในการใช้งานที่ต้องการความยืดหยุ่นและพื้นที่ในการติดตั้งมากกว่าความประสิทธิภาพที่สูงในหนึ่งตารางเมตรของแผงโซล่าเซลล์

3.5 แผงโซล่าเซลล์บิโฟแนท (Bifacial Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์บิโฟแนท (Bifacial Solar Panels) เป็นประเภทของแผงโซล่าเซลล์ที่สามารถรับแสงอาทิตย์ทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังของแผง โดยมีคุณสมบัติที่น่าสนใจต่อไปนี้:

  1. การทำงาน:
    • รับแสงอาทิตย์ทั้งจากด้านหน้าและด้านหลังของแผง
    • แผงโซล่าเซลล์บิโฟแนทสามารถให้กำลังไฟฟ้าได้จากรังสีแสงอาทิตย์ที่สะท้อนมาจากพื้นผิวรอบๆ ทำให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  2. โครงสร้าง:
    • มีโครงสร้างที่ใส่ใจถึงการสะท้อนแสง โดยใช้พื้นผิวหลังของแผงที่สามารถสะท้อนแสงได้เพิ่มเติม
    • บางรุ่นอาจมีตัวรับสัญญาณเซ็นเซอร์ที่ช่วยในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของแสง
  3. ประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับแผงโซล่าเซลล์ทั่วไปในบางเงื่อนไข
    • การเพิ่มความสามารถในการรับแสงอาทิตย์ที่สะท้อนมาจากพื้นผิวรอบๆ ทำให้มีการผลิตไฟฟ้ามากขึ้น
  4. การใช้งาน:
    • ใช้ในที่ที่มีพื้นที่ว่างมาก เช่น ฟาร์มโซล่าเซลล์หรือโครงการพลังงานที่มีพื้นที่ใหญ่
  5. การติดตั้ง:
    • ต้องการโครงสร้างที่สามารถสะท้อนแสงได้ดีทั้งจากด้านล่างและด้านบนของแผง
    • การติดตั้งที่คำนึงถึงการสะท้อนแสงอาทิตย์ที่พื้นด้านล่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การใช้แผงโซล่าเซลล์บิโฟแนทมีประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตไฟฟ้ามากขึ้นในบางเงื่อนไขการใช้งาน โดยเฉพาะในที่ที่มีการสะท้อนแสงจากพื้นผิวรอบๆ หรือเมื่อติดตั้งในพื้นที่ที่มีการสะท้อนแสงอย่างมาก เช่น บนพื้นหลังสีขาวหรือพื้นที่ที่มีหิมะมาก

3.6 แผงโซล่าเซลล์เคลียร์ (Solar Tiles)

แผงโซล่าเซลล์เคลียร์ (Solar Tiles) เป็นโซล่าเซลล์ที่ถูกผสมเข้ากับวัสดุสำหรับการทำหลังคาหรือผนังบ้าน ซึ่งมีลักษณะที่คล้ายกับกระเบื้องหรือกระเบื้องเคลือบ การใช้แผงโซล่าเซลล์เคลียร์มีความได้เปรียบในด้านทรัพยากรทางด้านสถาปัตยกรรมและการใช้พื้นที่ในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีลักษณะและคุณสมบัติต่าง ๆ ดังนี้:

  1. ลักษณะทรัพยากรทางสถาปัตยกรรม:
    • มีลักษณะที่คล้ายกับวัสดุสำหรับการทำหลังคาหรือผนัง ทำให้สามารถผสมเข้ากับโครงสร้างของบ้านได้โดยไม่ทำให้รอบด้านดูเปลี่ยนแปลงมาก
  2. การผลิตไฟฟ้า:
    • ทำหน้าที่เป็นพื้นผิวที่จับตัวกับแสงอาทิตย์เพื่อแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า
    • ในบางกรณี, แผงโซล่าเซลล์เคลียร์อาจถูกติดตั้งบนพื้นที่ที่มีแสงอาทิตย์โดยตรงหรือบนหลังคาที่ติดตั้งในทิศทางที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
  3. การติดตั้ง:
    • การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์เคลียร์สามารถทำได้ในลักษณะการทำหลังคาหรือผนัง ไม่ต่างจากวัสดุสำหรับทำหลังคาทั่วไป
  4. การใช้งาน:
    • เหมาะสำหรับใช้ในที่ที่ต้องการรักษาลักษณะดีเนียลของบ้านและไม่ต้องการให้แผงโซล่าเซลล์ทำให้ดูมีลักษณะแตกต่างจากบ้านโดยส่วนมาก
  5. ราคา:
    • มักมีราคาสูงกว่าแผงโซล่าเซลล์ที่ติดตั้งบนโครงสร้างที่อยู่ในตำแหน่งที่ไม่ต้องการการปกคลุมหรือการผสมเข้ากับสภาพแวดล้อม

การใช้แผงโซล่าเซลล์เคลียร์มีข้อได้เปรียบในด้านทรัพยากรทางสถาปัตยกรรมและมีความสามารถในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์โดยไม่ต้องสร้างโครงสร้างเพิ่มเติมที่มีลักษณะต่างๆ อย่างเดียว อย่างไรก็ตาม, ราคาของแผงโซล่าเซลล์เคลียร์มักจะสูงกว่าแผงโซล่าเซลล์ทั่วไปที่ติดตั้งบนโครงสร้างทั่วไป

3.7 แผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้ (Perovskite Solar Panels)

แผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้ (Perovskite Solar Panels) เป็นเทคโนโลยีที่ใหม่และมีศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ โดยใช้วัสดุที่เรียกว่า “เพอโรสไกต์” ซึ่งเป็นสารประกอบทางเคมีที่มีสมบัติในการทำให้เกิดไฟฟ้าเมื่อได้รับแสงอาทิตย์ นี่คือลักษณะและคุณสมบัติหลักของแผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้:

  1. วัสดุ:
    • ใช้เพอโรสไกต์เป็นวัสดุหลักที่มีสมบัติในการเก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์
    • เพอโรสไกต์มักถูกผสมรวมกับอื่นๆ เช่น ไอโอดไอดีน (iodide) หรือ ไอโอดไอโอน (ion) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
  2. คุณสมบัติประสิทธิภาพ:
    • มีประสิทธิภาพที่สูงในการแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า
    • สามารถทำให้ได้รับไฟฟ้าได้ในสภาวะแสงอาทิตย์น้อย
  3. การผลิต:
    • วัสดุที่ใช้ผลิตแผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้มีความยืดหยุ่น ทำให้สามารถทำแผงโซล่าเซลล์ที่บางและเบนได้
    • วัสดุสามารถทำให้เป็นลักษณะต่าง ๆ ทำให้เป็นทางเลือกที่หลากหลายในการใช้ในการผลิต
  4. การใช้งาน:
    • เหมาะสำหรับการใช้ในแอพพลิเคชั่นที่ต้องการแผงโซล่าเซลล์ที่บางและมีประสิทธิภาพสูง
    • มีศักยภาพในการใช้ในอุตสาหกรรมและส่วนต่อเนื่องของอาคาร
  5. การผลิตตลอดฤดู:
    • สามารถผลิตได้ตลอดฤดู เพราะไม่ได้พึ่งพาจากแสงอาทิตย์มากนัก
    • มีความยืดหยุ่นในการใช้งานในสภาวะอากาศต่าง ๆ
  6. ความทนทาน:
    • มีความทนทานต่อการทำลายจากตัวต้านทานและความชื้น
  7. การผลิตของหลายบริษัท:
    • หลายบริษัทที่เชี่ยวชาญในการผลิตแผงโซล่าเซลล์กำลังวิจัยและผลิตแผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้ในขณะนี้

แผงโซล่าเซลล์เพอโรโบสกี้เป็นเทคโนโลยีที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการของพลังงานแสงอาทิตย์และกำลังมีการพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความทนทานในการใช้งานในระยะยาว

แต่ละประเภทของแผงโซล่าเซลล์มีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ประเภทที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ทั้งนี้แผงยังมีทั้งเเบบ แผงมอก เเละ เเผงที่ไม่มีมอก

4. ส่วนประกอบของแผงโซล่าเซลล์ แต่ละส่วน มีหน้าที่ทำอะไร

หน้าที่ของแต่ละส่วนประกอบ ของ แผง โซ ล่า เซลล์

  1. กรอบโครงอลูมิเนียม (Aluminum Frame):
    • ทำหน้าที่เสริมความแข็งแรงของแผงโซล่าเซลล์
    • ปกป้องแผงโซล่าเซลล์จากรอยขีดข่วนและสึกหรอ
    • ช่วยในการติดตั้งและทำให้แผงมีความเสถียร
  2. กระจกปิดด้านหน้า (Front Glass):
    • เป็นกระจกที่ใช้เป็นผลึกบนเซลล์แสงอาทิตย์
    • ลดการสะท้อนของแสงเพื่อให้มีการดูดซับแสงมากที่สุด
    • ปกป้องเซลล์แสงอาทิตย์จากรอยขีดข่วนและสึกหรอ
  3. ฟิล์มป้องกันความชื้น (EVA – Ethylene Vinyl Acetate):
    • ป้องกันเซลล์ไม่ให้สัมผัสโดยตรงกับกระจกและความชื้นจากสภาพอากาศ
    • ช่วยในการกระจายความร้อนและลดความตึงเครียดที่เกิดขึ้นในเซลล์
  4. เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar Cells):
    • แปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นกระแสไฟฟ้า
    • ส่วนที่สำคัญในการผลิตไฟฟ้าจากระบบโซล่าเซลล์
    • มักทำจากวัสดุซิลิคอน
  5. ฟิล์มป้องกันความชื้น (EVA – Ethylene Vinyl Acetate):
    • ป้องกันน้ำและความชื้นจากการเข้าสู่ภายในตัวเซลล์
    • ช่วยในการรักษาความยืดหยุ่นของแผงโซล่าเซลล์
  6. แผ่นประกอบหลังแผง (Tedlar Film):
    • รองรับน้ำหนักของตัวเซลล์
    • ระบายความร้อนออกจากตัวแผง
    • ป้องกันน้ำและความชื้นจากด้านหลังของแผง

ทุกส่วนประกอบของแผงโซล่าเซลล์นี้ทำหน้าที่ร่วมกันเพื่อให้แผงโซล่าเซลล์ทำงานได้ประสิทธิภาพสูง และทนทานต่อสภาพอากาศและสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง ๆ อย่างยาวนาน ดูสินค้าทั้งหมด

ส่วนประกอบของแผงโซล่าเซลล์

สรุปเกี่ยวกับโซล่าเซลล์ คืออะไร?

โซล่าเซลล์ คือเทคโนโลยีที่มีความสำคัญและคุ้มค่าในสังคมของเราในปัจจุบันและอนาคต มีประโยชน์มากมายไม่เพียงแค่ในการผลิตพลังงานที่มาจากแสงอาทิตย์ให้ใช้งาน แต่ยังมีส่วนสำคัญในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดปัญหาเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่มาจากแหล่งที่ทำลายสิ่งแวดล้อม ด้วยความสามารถในการใช้งานในอุตสาหกรรมและการเกษตรกรรม ในอนาคตโซล่าเซลล์ยังคงเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญและทันสมัยที่ควรคำนึงถึงในการพัฒนาและใช้ชีวิตของเราอย่างมีสติและรับผิดชอบ ปรึกษาฟรี LINE ID : @solarD

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโซล่าเซลล์

1. โซล่าเซลล์ คืออะไรและทำงานอย่างไร?

โซล่าเซลล์ คือเซลล์ที่สามารถแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์เป็นพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานความร้อน โซล่าเซลล์ทำงานด้วยกระบวนการแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่เข้ามาสู่พลังงานไฟฟ้าที่เรียกว่า “กระแสไฟฟ้าส่วนแรก” และสามารถเก็บพลังงานไว้ใช้งานในภายหลังได้เมื่อมีความต้องการ

2. สิ่งที่ควรพิจารณาในการเลือกแผงโซล่าเซลล์คืออะไร?

ควรพิจารณาประสิทธิภาพของแผงโซล่าเซลล์ ราคา ความเสถียร และความต้องการของการบำรุงรักษาในการเลือกแผงโซล่าเซลล์ที่เหมาะสม

3. แผงโซล่าเซลล์แบบใดที่มีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานมากที่สุด?

แผงโซล่าเซลล์แบบโมโนคริสตัลมีประสิทธิภาพในการแปลงพลังงานมากที่สุดเนื่องจากใช้วัสดุคริสตัลซิลิโคนเดียวที่มีความบริสุทธิ์สูง

บทความที่น่าสนใจ